Monday, November 26, 2007

journal ของผู้เข้ารับการอบรมรุ่นที่ 1131

เมื่อคืนนี้ผมเข้าไปเยี่ยม blog ของ Mll Niishi แล้วได้อ่าน journal บันทึกเรื่องราวการอบรม Mind Map รุ่น 1131 เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2550 จึงขอคัดบางตอนมาให้อ่านกัน ใครสนใจแนะนำให้ไปอ่านฉบับเต็มที่ Blog http://niichi.multiply.com/journal สนุกกว่ามากเลยครับ คุณ Niishi บรรยายว่า "เมื่อวานไปอบรมเรื่อง Mind Map มา เป็นรุ่นที่ 1131 รวมๆ แล้วมีคนอบรมไป 80,000 กว่าคนละ ได้รู้อะไรดีๆ เยอะแยะเลยล่ะ ได้รู้เรื่องของสมอง การทำงานของสมอง ระบบการจำ การคิดแบบ Kaizen การ Brainstorm แบบ Alex Osborn รู้จัก Mind map การทำ Mind Map และสุดท้ายการทำไปใช้ ได้ความรู้เยอะมากกก แต่คงไม่บอกในนี้อ่ะนะ เด๋วยาว ^^’’ งานจัดที่โรงแรมอิมพีเรียล ธารา ซอยสุขุมวิท 26 โอวว แม่เจ้า เหมือนบ้านนอกเข้ากรุง หลงค่ะหลง หาโรงแรมไม่เจอ วนไปวนมา พี่แทกซี่ก็แบบ กรูรู้..แต่พี่พาหนูเข้าผิดทู้กที กว่าจะไปถึงก็ 9 โมงกว่า ชาวบ้านเค้าเข้าห้องไปหมดแว้วว เข้าไปคนนั่งกันเต็ม อาจารย์เริ่มบรรยายละ จิตราจำเป็นต้องเข้าไปอย่างสงบเสงี่ยมที่สุดหลังจากกวาดสายตาด้วยความเร็ว 800 น้อท ก็เอาวะ นั่งนี่แหละ หลังสุด มุมขวาค่ะ ..มุมดีสุดๆ เฮ้ออ... วิทยากรคือ อ.ธัญญา ผลอนันต์ คนไทยคนแรกที่ได้ไปอบรม Mind Map กับ Tony Buzan ผู้คิด Mind Map ที่เมืองพูล อังกฤษ อาจารย์ไปฝึกอบรมมาแล้วก็ได้รับ Licensed จาก Buzan Center เป็นแห่งเดียวของไทยด้วยนะ ขอบอก เริ่มแรกเป็นกติกา อาจารย์ขอให้เราทำตัวเป็นเด็กอนุบาลตลอดการอบรมนี้ เพราะว่าถ้าเราเอานิสัยการเรียนรู้ของเด็กมาใช้ จะให้เราเรียนได้มากขึ้น ว่างั้นน คงเป็นนิสียช่างซัก ช่างถาม ของเด็กล่ะมั๊ง แล้วอาจารย์ก็พูดถึงแนวความคิดแบบ Kaizen คำนี้มาจากภาษาญี่ปุ่น 2 คำ (ถึงไม่ได้เรียนญี่ปุ่นมาก็น่าจะเดาออก) คือคำว่า Kai (เปลี่ยนแปลง) + Zen (ดีและดีกว่าเดิม) ดังนั้น Kaizen = การเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องให้ดีกว่าเดิม ถ้ายังไม่ชัดเจน อ.ขวัญฤดี มาบอกต่อว่า “เมื่อทำสิ่งใดเสร็จแล้ว รีบถามว่าทำให้ดีกว่าเดิมได้ไหม แล้วลงมือทำให้ดีขึ้นทันที นี่คือหัวใจของ Kaizen” เป็นไงคะ แทบจะบรรลุกันเลยทีเดียว แล้วเราก็มาเรียนรุ้เรื่องของสมอง การทำงานของสมอง ได้ฝึกประลองความจำกันด้วย สนุกมากกก ขอบอกมีเกมส์แข่งคิดเร็ว จำแม่น ไม่อยากจะคุยว่า งานนี้จิตรากวาดรางวัลมาเพียบ อิอิ...ท้ายดิจกรรมนี้ เราก็ได้ข้อสรุปกันว่า “สมองออกแบบมาให้จำภาพมากกว่าตัวอักษร ใครอยากจำได้แม่น ให้ฝั่งความจำเป็นภาพ” และ “สมองจะจำสิ่งที่เกิดแรกและหลังสุดได้ เช่น ความรักครั้งแรก กิ๊ววว เหตุการณ์ที่เกิดเมื่อวาน ประมาณนี้ และสมองจะจำได้ดักับข้อมูลซ้ำๆ เห็นซ้ำ เกิดซ้ำ ข้อมูลที่มีการเชื่อมโยง มีความสัมพันธ์กัน และสุดท้ายสิ่งที่แปลกจากชีวิตประจำวัน สมองจะจำแม่นมากกก เช่นเหตุการณ์เฉียดตาย” เพราะงั้นเทคนิคการจำที่สอดคล้องกับการทำงานสมอง คือ “ต้องทำซ้ำ หาการเชื่อมโยง ละที่สำคัญคือก็บอกต่อ เพราะงั้นใครที่อยากจำแม่น เวลาอ่านหนังสือให้ทำ short note ไปด้วย ให้เกิดการเห็นข้อมูลซ้ำๆ และต้องหาภาพรวมของเนื้อหา ความสัมพันธ์ของข้อมูลให้ได้ ที่สำคัญให้อ่านเหมือนเราต้องไปบอกต่อ สอนต่อ” ประมาณนั้น ลองจำไปทำดูนะคะ พอตอนบ่ายก็มาเจาะ Mind Map Mind Map เนี่ยเป็นเครื่องมือรวบรวมความคิด ใช้ในการจดบันทึกเพื่อช่วยในการจำ ลักษณะของ Mind Map จะเหมือนกิ่งไม้ที่งอกต่อๆไปไม่มีหยุด เหมือนความคิดของเรา ใช้สีสันและภาพ สัญลักษณ์มาช่วยให้จำง่ายขึ้น สนุกมั่กๆๆ เหมือนได้เรียนศิลปะ กะได้ฝึกคิดอะไรที่มันต่อยอด ต่อยอดความคิดออกไป อาจารย์ให้เวลาทำ Map ละ 3 นาที พอหมดเวลานะ ไม่อยากวางปากกาเลย ยังมันส์อยู่อ่ะ เนี่ยยย หน้าตา Mind Map ชิ้นแรกของเรา....^^ ขอบอกว่า อย่าเอาอย่าง มันยังผิดอยุ่ค้า 555 สุดท้ายอาจารย์ก็ฝากไว้ว่า Mind Map เป็นแค่เครื่องมือ ถ้าเรารู้แต่ไม่นำไปใช้ มันไม่มีประโยชน์ รู้แล้วไม่ใช้ = ไม่รู้ อาจารย์ว่างั้น ช่วงเช้า 9 โมงถึง 4 โมงเย็น ถามต่ออีกจน 5 โมงกว่าๆ 7 ชั่วโมงรู้สึกเหมือนแป๊บเดียว "

No comments: