Tuesday, January 29, 2008

Mind Mapping Workshop # 1296 - โรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา ประถม ๔ - ๕ วันที่ 29 มกราคม 2551

เช้าวันที่ ๒๙ มกราคม ผมได้พบนักเรียนน้อย ๆ จำนวน ๕๐๐ คนจากชั้นประถม ๔ ทั้งหมดและครึ่งหนึ่งของชั้นประถม ๕ ของโรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าแก่อายุ 107 ปี ความประทับใจคือต้นไม้ที่สูงใหญ่ให้ความร่มรื่นกับครูและนักเรียน โรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2444 โดยมิชชันนารีอเมริกันเพรศไบทีเรียนเพื่อเผยแพร่พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ เมื่อเริ่มแรกได้เปิดโรงเรียนเล็ก ๆ ใช้ชื่อโรงเรียนว่า "โรงเรียนอเมริกันสกูลฟอร์บอย (เอ เอ็ม ซี) ตั้งอยู่ที่ตำบลคลัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช (ปัจจุบันคือคริสตจักรเบธเลเฮ็ม) โดยมีศาสนาจารย์อาร์ ดับดลิวโพสท์ เป็นครูใหญ่ ต่อมา มิสลาริยา เจ คูเปอร์ รับหน้าที่ต่อ เมื่อปี พ.ศ. 2458 ได้มีการย้ายเด็กหญิงซึ่งแต่เดิมได้รับมาเรียนรวมกับเด็กชาย มาตั้งที่ ตำบลปากพูน (ปัจจุบันคือตำบลท่าวัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของแผนกอนุบาลในปัจจุบัน)โดยใช้ชื่อโรงเรียนว่า "โรงเรียนศึกษากุมารี" โดยมิสมิลเลอร์ เป็นครูใหญ่ และมิสเฮเลนแมกเคกก์ได้รับหน้าที่ต่อมา เมื่อปี พ.ศ. 2484 โรงเรียนอเมริกันก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนศรีธรรมราชวิทยา" ได้ย้ายนักเรียนมัธยมศึกษามาตั้งในสถานที่ใหม่ คือทีตำบลปากพูน (โรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา แผนกประถมศึกษา - มัธยมศึกษา ในปัจจุบัน) สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพประทานที่ดินแก่มิชชันนารี ส่วนนักเรียนประถมศึกษายังอยู่ที่เดิมจนกระทั่งอาคารเรียนก่อสร้างเสร็จ จึงได้ย้ายนักเรียนประถมศึกษาไปอยู่ด้วยกัน โรงเรียนศรีธรรมราชวิทยา ได้รับการรับรองวิทยฐานะจากกระทรวง ศึกษาธิการให้เทียบเท่าโรงเรียนรัฐบาลเมื่อปี พ.ศ. 2498 ต่อมามูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทยรับมอบกิจการโรงเรียนทั้งสองต่อจากคณะมิชชั่นนารีเมื่อปี พ.ศ. 2510 ได้พิจารณารวมโรงเรียนศึกษากุมารีกับโรงเรียนศรีธรรมราชวิทยาเป็น โรงเรียน " ศรีธรรมราศึกษา" จนกระทั่งปัจจุบัน โรงเรียนดำเนินกิจการตามแนวทางการบริหารงานที่ได้วางไว้ในสมัยผู้บริหารรุ่นแรก ๆ และมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยการจัดการเรียนการสอนเป็น 3 ระดับคือ ระดับก่อนประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ตามหลักสูตรของกระทรวง ศึกษาธิการ โรงเรียนมุ่งอบรมสั่งสอนนักเรียนเพื่อให้บรรลุตามปรัชญาของโรงเรียนที่ว่า "ความยำเกรงพระเจ้าเป็นบ่อเกิดของความรู้" ได้ดำเนินการพัฒนางานด้านต่าง ๆ ให้เหมาะสม สอดคล้องกับ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และหลักสูตร รวมทั้งส่งเสริมให้นักเรียนได้รับการฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ทำได้ คิดเป็น ทำเป็น เกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง เป็นคนเก่ง คนดี และมีความสุข Mind Map ก็เข้ามามีส่วนช่วยให้นักเรียน "ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ทำได้ คิดเป็น ทำเป็น เกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง เป็นคนเก่ง คนดี และมีความสุข"

No comments: